News

SRI LANKA Once in the Lifetime

SRI LANKA Once in the Lifetime

ศรีลังกา ประเทศในแถบเอเชียใต้ ที่คนไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชินนักกับการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศนี้ ไปดูกันว่าประเทศที่ถูกยกให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดแห่งปีของ Lonely Planet นี้ จะมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้างที่คุณควรลองไปสัมผัส โดยเฉพาะท่านที่ทำธุรกิจหรือกำลังเริ่มต้นสร้างสรรค์โรงแรม ซึ่งเราแนะนำว่า ควรหาโอกาสไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม สถานที่ ผู้คน อาหาร ที่พักและวัฒนธรรมอันงดงามระดับโลกในประเทศแห่งนี้ สักครั้งในชีวิต 1.Colombo City นี่คือหนึ่งในไฮไลท์ของศรีลังกาที่คุณจะได้ซึมซับศิลปะวัฒนธรรมและประวัติความเป็นมาอันยาวนานของประเทศนี้จากเมืองหลวง Colombo เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์สีสัน ทั้งตึกรามบ้านช่องที่โดดเด่นแปลกตา เป็นสไตล์บริทิชโคโลเนียล เนื่องจากว่าศรีลังกานั้นเคยตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษอยู่หลายร้อยปี ทำให้ยังมีกลิ่นอายศิลปะผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ผู้คนที่น่ารักและยิ้มแย้มต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มาเที่ยวศรีลังกาลองแวะไปเดินชมเมืองโคลอมโบ หรือจะนั่งรถสามล้อชมเมืองก็สามารถทำได้ แต่ต้องตกลงราคากับทางคนขับให้ดีเสียก่อน 2. Independence Square (จัตุรัสแห่งอิสรภาพ) หนึ่งในจุดเช็กอินต้องห้ามพลาดในเมืองโคลอมโบนั่นก็คือ Independence Square หรือจัตุรัสแห่งอิสรภาพ สัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสรภาพของชาวศรีลังกาต่อประเทศอังกฤษ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1948 ถือได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศศรีลังกาเลยทีเดียว 3. Gangaramaya Temple (วัดคงคาราม) วัดคงคาราม วัดไทยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในศรีลังกา เป็นวัดไทยนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ภายในวัดมีความสงบร่มเย็นและเต็มไปด้วยศิลปะทางพระพุทธศาสนาอันทรงคุณค่ามากมาย เช่น พระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองที่ประดิษฐานอยู่ด้านในพระอุโบสถพร้อมกับจิตกรรมฝาผนังที่ดูสวยงามอลังการเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้หน่อต้นมาจากต้นศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาอินเดียด้วย และพิพิธภัณฑ์สะสมของเก่าแก่ทั้งวัตถุมงคล และสิ่งของเครื่องใช้ ที่ทางวัดได้เก็บรวบรวมเอาไว้ให้เราได้เดินศึกษาประวัติความเป็นมาได้อย่างน่าสนใจ  4. Dambulla (วัดถ้ำดัมบูลลา) มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งศรีลังกา ที่เราอยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง วัดถ้ำ Dambulla เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของศรีลังกา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อขึ้นไปที่วัดประมาณ 15 นาที ทางเดินเป็นพื้นปูนไล่ไปตามระดับความชันของภูเขาเดินได้ง่ายๆ ด้านบนเราจะได้พบกับความมหัศจรรย์ระหว่างธรรมชาติและสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ ภาพที่เห็นคือภูเขาหินขนาดใหญ่ยักษ์ที่ถูกเจาะแบ่งออกเป็น 5 ห้อง กลายเป็นวัดถ้ำที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของศรีลังกาเอาไว้มากมาย ทั้งพระพุทธรูปปางปรินิพพานขนาดใหญ่ถึง 49 เมตร จิตกรรมฝาผนังสุดตระการตาบอกเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา เจดีย์ที่มีรูปทรงดูแปลกตา และพระรูปเหมือนจริงของพระราชาผู้สร้างวัดถ้ำ DamBulla แห่งนี้ขึ้นมา ความรู้สึกที่ได้มาเที่ยวที่วัดถ้ำ Dambulla แห่งนี้นอกจากจะได้ตื่นตาตื่นใจกับความงดงามของสถานที่แล้ว ยังได้ซึมซับประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ทางวัฒนธรรมของศรีลังกาอีกด้วย  5. Sigiriya (พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา) ห่างจากวัดถ้ำ Dambulla มาประมาณ 24 กิโลเมตร เรามุ่งหน้าเข้าสู่ Sigiriya พระราชวังลอยฟ้าสุดยิ่งใหญ่...

Read more →


ภาษีและกฎหมายสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก

ภาษีและกฎหมายสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก

ภาษีและกฎหมายสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก โดยปกติการทำธุรกิจโฮสเทลจะอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2547 โดยไม่มีการแยกประเภทว่าเป็นโฮสเทล โฮเต็ล โมเต็ล Bed & Breakfast หรือรีสอร์ต สรุปก็คือไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่พักประเภทใดก็ตาม ถือเป็นธุรกิจโรงแรมภายใต้พระราชบัญญัติฉบับนี้ทั้งสิ้น หากมีการนำอาคารเก่า เช่น ตึกแถวเก่า บ้านเก่า อาคารสำนักงานเก่า มาดัดแปลงเป็นโฮสเทล บอกได้เลยว่า คุณไม่มีโอกาสที่จะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมภายใต้พระราชบัญญัติโรงแรมนี้ ทุกวันนี้โฮสเทลส่วนใหญ่ต่างดำเนินธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ แต่หากคุณต้องการให้ธุรกิจโฮสเทลของคุณถูกต้องตามกฎหมายมีทางเดียวคือ ต้องสร้างอาคารใหม่ให้ถูกต้องตรงตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร และพระราชบัญญัติโรงแรม เท่านั้น กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจโฮสเทล ที่คุณต้องรู้ไว้ มีดังนี้   พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร  โรงแรมถือเป็นอาคารสาธารณะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ซึ่งมีข้อกำหนดในเรื่องการออกแบบที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ประเด็นหลักคือ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งต้องใช้สถาปนิกและวิศวกรงานระบบที่มีความชำนาญในการออกแบบโรงแรม มาเป็นผู้ออกแบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย และหากคุณมีโฮสเทลตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป ต้องผ่านขั้นตอนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment หรือ EIA) เพื่อตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น อันเนื่องมาจากการก่อสร้างโฮสเทลของคุณ หากคุณทำโฮสเทลตั้งแต่ 80 ห้องขึ้นไป และผ่านกระบวนการ EIA เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การยื่นเรื่องขอปลูกสร้างอาคาร (ใบ อ.๑) ซึ่งคุณต้องไปยื่นเรื่องต่ออำเภอหรือเทศบาลในเขตพื้นที่นั้นๆ ความยากง่ายในการได้รับใบอนุญาตก่อสร้างขึ้นอยู่กับว่าแบบของคุณออกแบบได้ถูกต้องตรงตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารหรือไม่และขึ้นอยู่กับความสามารถของนายหน้าที่คุณว่าจ้างไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวย ความสะดวกในทางราชการ เมื่ออาคารก่อสร้างไปได้ราว 70-80 เปอร์เซ็นต์ ขั้นตอนต่อมา คุณต้องดำเนินการขออนุญาตเปิดการใช้อาคาร โดยยื่นเรื่องขอใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (ใบ อ.๖) จากเจ้าหน้าที่ที่อำเภอหรือเทศบาลที่เคยไปติดต่อก่อนหน้านี้ หากโรงแรมใกล้แล้วเสร็จประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ต้องดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจากกระทรวงมหาดไทย หรือทางจังหวัด นอกจากนั้นยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก เช่น การขอใบอนุญาตขายแอลกอฮอล์และบุหรี่จากกรมสรรพสามิต การขอใบอนุญาตจำหน่ายอาหารหรือสะสมอาหารจากเทศบาล แต่ในกรณีที่นำอาคารเก่ามาซ่อมแซมหรือดัดแปลงอาคารนั้น (เดิมอาคารของคุณเป็นอาคารประเภทพักอาศัย และดัดแปลงมาเป็นอาคารเพื่อประกอบกิจการโรงแรม)คุณต้องขออนุญาตซ่อมแซมจากเทศบาลเท่านั้น แต่ไม่สามารถขออนุญาตดัดแปลงอาคารได้ เพราะเทศบาลจะไม่สามารถอนุญาตให้คุณดัดแปลงอาคารได้ ถ้าหากสนใจศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://office.bangkok. go.th/preservices/public.htm ส่วนขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.damrongdhama. moi.go.th/PDF/dopa05.pdf ปัจจุบันพระราชบัญญัติโรงแรมยังไม่ได้รองรับ หรือมีการกำหนดว่าห้องพักนอนรวมที่มีลูกค้าตั้งแต่ 50 เตียงขึ้นไป จะต้องมีห้องน้ำกี่ห้อง ถังดับเพลิงกี่ถัง...

Read more →


3 กฏหมาย เพิ่มโอกาสธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก

3 กฏหมาย เพิ่มโอกาสธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก

3 กฏหมาย ไม่รู้ไม่ได้ เพิ่มโอกาสธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก  ​ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางฮอตฮิตที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือนสักครั้ง ประกอบกับเทรนด์นักท่องเที่ยวที่หันมาสนใจเข้าพักในโรงแรมเล็กๆ ประเภทบูทีคโฮเต็ลหรือโฮลเทลกันมากขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการหลายท่านสนใจอยากเปลี่ยนบ้านหรือตึกเก่ามาเป็นโรงแรมเก๋ๆ ต้อนรับนักท่องเที่ยวกันมาก แต่ปัญหาก็คือ ผู้ประกอบการไม่รู้หรือไม่เข้าใจกฎหมาย เมื่อก่อสร้างผิดแบบก็จะมีปัญหาตามมา ดังนั้นจึงควรศึกษากฎหมายโรงแรม เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องเสียตั้งแต่แรก ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กมากขึ้น โดยมีกฏหมาย 3 ข้อ หลักๆ ที่ต้องพึงระวัง ดังนี้ เรื่องที่จอดรถยนต์ จากเดิมกฎหมายกำหนดให้โรงแรมที่มีห้องพักตั้งแต่ 30 ห้องขึ้นไปต้องมีที่จอดรถ ซึ่งเป็นปัญหาของโรงแรมขนาดเล็ก เนื่องจากมีพื้นที่ประกอบการน้อยอยู่แล้ว ยังต้องจัดสรรมาทำที่จอดรถอีก ทำให้ผู้ประกอบการบางรายทำผิดด้วยการไม่ทำที่จอดรถ ดังนั้นกฏหมายใหม่จึงได้มีการอนุโลมในเรื่องนี้ โดยหากมีพื้นที่ Lobby หรือพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ไม่เกิน 300 ตร.ม. หรือโรงแรมตั้งอยู่ในพื้นที่ตามสภาพธรรมชาติที่ไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างที่จอดรถ เช่น โรงแรมที่ต้องนั่งเรือเข้าไป ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างที่จอดรถ เรื่องผังเมือง เดิมกฏหมายอนุญาตให้สร้างโรงแรมได้เฉพาะพื้นที่เขตพาณิชย์อย่างเช่น สีลม สุขุมวิท หรือย่านใจกลางเมือง ซึ่งที่ดินมีราคาแพงมาก ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กจึงแทบจะหมดสิทธิ์ไปทำธุรกิจในย่านนั้น และไม่อนุญาตให้สร้างหรือออกใบอนุญาตโรงแรมในพื้นที่อื่นซึ่งอาจจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ อย่างถนนข้าวสารหรือบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ จึงมีการแก้ไขกฎหมายกฏหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในพื้นที่อื่นมากขึ้น โดยผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบผังเมืองใหม่ที่มีการอนุญาตให้ทำธุรกิจโรงแรมได้ที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หรือ www.dpt.go.th นอกจากนี้อยากให้ผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อตึกเก่ามาปรับปรุงใหม่ต้องตรวจสอบทุกครั้งว่า ตึกที่สนใจจะซื้อนั้นเคยมีการฟ้องร้องเป็นคดีความหรือไม่ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานเขตหรืออำเภอในท้องที่นั้นๆ ด้วยครับ เรื่องกฎหมายควบคุมอาคารในเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะอาคารเก่าหรืออาคารที่ก่อสร้างมาก่อนแต่ไม่ได้ขอเป็นโรงแรม ตามกฎหมายใหม่ ได้มีการกำหนดเรื่องความปลอดภัยที่เข้มข้นขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการเอง และของผู้เข้าพักในโรงแรม เช่น ทางหนีไฟภายในอาคารกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 0.80 ม. ผนังหรือประตูหนีไฟต้องทำจากวัสดุทนไฟได้เกิน 30 นาที มีถังดับเพลิงสำหรับพื้นที่ทุก 1,000 ตร.ม. ต้องทำประกันภัยบุคคลที่ 3 ถ้าเป็นโรงแรมที่มีห้องพักในชั้นเดียวกันไม่เกิน 20 ห้องจะต้องมีทางเดินกว้างไม่น้อยกว่า 1.20 ม. บันไดต้องกว้างไม่ต่ำกว่า 0.90 ม. มีที่ว่างไม่น้อยกว่า 30% ของพื้นที่ชั้นใดชั้นหนึ่งที่มากที่สุดของอาคาร เป็นต้น นี่จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กทั้งหน้าใหม่และเก่าที่อาจจะยังทำไม่ถูกกฎหมายให้เร่งแก้ไขปรับเปลี่ยนให้ถูกต้อง ซึ่งผู้ประกอบการต้องระลึกไว้เสมอว่า การทำให้ถูกกฎหมายนั้นจะส่งผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว   ท้ายนี้ สำหรับทุกท่านที่มีคำถามคาใจ การเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฏหมาย +++!!!!��� �ทำยังไง ให้บ้านหรือตึกเก่าของเรา กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฎหมาย ? �ต้องติดต่อใคร...

Read more →


ข่าวดีนักลงทุน ธนาคารพร้อมใจเตรียมงบรองรับ นทท. 42 ล้านคน

ข่าวดีนักลงทุน ธนาคารพร้อมใจเตรียมงบรองรับ นทท. 42 ล้านคน

ข่าวดีนักลงทุน ธนาคารพร้อมใจเตรียมงบรองรับ นทท. 42 ล้านคน ปัจจุบันเทรนด์การเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากอดีต ประเด็นหนึ่งที่ชัดเจนและเป็นโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก คือ นักท่องเที่ยวยินดีจ่ายค่าที่พักในราคาสูงขึ้นให้กับโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตน ที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง หรือให้บริการที่ตรงกับความต้องการเฉพาะตัวของผู้เข้าพักแต่ละกลุ่ม อันเป็นโอกาสของบูติกโฮเทลที่จะยกระดับมาตรฐานห้องพัก สิ่งแวดล้อม และบริการ เพื่อสร้างจุดขายที่มีความแตกต่าง นอกจากนี้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาธุรกิจ ปรับระบบการบริหารจัดการ และต่อยอดการทำตลาดและช่องทางการขายใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กต้องปรับวิธีคิดและออกจากข้อจำกัดเดิมๆ เช่น การพึ่งพา Online Travel agent ในการขายห้องพักเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองหารูปแบบอื่นๆ ที่หลากหลายควบคู่กัน และขณะนี้หมดยุคการแข่งขันลดราคาห้องพักจนต้องลดคุณภาพบริการและสูญเสียรายได้จนธุรกิจไปต่อได้อย่างยากลำบาก ผู้ประกอบการควรต้องปรับเปลี่ยนมุมมองด้วยว่า ธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันนั้นจะไม่มีเรื่องฤดูกาลอีกต่อไป แต่ควรวางเป้าหมายและพัฒนาสภาพแวดล้อมที่จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเที่ยวไทยให้เข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่และเข้าพักแรมในทุกวัน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมที่พักแรมของไทยในปีนี้จะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ระดับ 71-73% ตลอดทั้งปี โดยธนาคารไทยพาณิชย์คาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 42 ล้านคน หรือขยายตัว 4.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการขยายตัวจะเกิดจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก รวมถึงนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งธุรกิจโรงแรมที่พักนับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีบทบาทต่อการยกระดับภาคการท่องเที่ยวของไทย ภาคธนาคารมองเห็นโอกาสทางธุรกิจของธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงจัดให้กลุ่มโรงแรมเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Industry Focus) ที่ธนาคารให้ความสำคัญและต้องเข้าไปสนับสนุนให้ธุรกิจนี้มีความแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ด้วยการเป็นจุดเชื่อมเครือข่ายระบบนิเวศของธุรกิจโรงแรม (Hotel Ecosystem) ในทุกมิติที่จะเอื้อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น และพร้อมที่จะรับมือกับบริบทใหม่ๆ และความท้าทายได้อย่างทันท่วงที    นอกจากนี้ธนาคารหลายๆ แห่งยังได้จัดเตรียมแพคเกจการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการ  เพื่อเป็นทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และบริการของผู้ประกอบการไว้อย่างครบวงจร เช่น  SCB Hotel Solution ด้วยสินเชื่อโรงแรมเพื่อ Refinance และ Renovation อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 4% (ตามเงื่อนไขของธนาคาร) วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท สามารถผ่อนชำระได้ตามฤดูกาล ระยะเวลานานสูงสุด 10 ปี คุณสมบัติลูกค้าต้องเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมถูกต้องตามเกณฑ์ มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจโรงแรมมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี  และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการรับชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตแบบ Online Payment Gateway ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปี พร้อมสร้างการรับรู้ ค้นหาและนำทางนักท่องเที่ยวไปสู่ที่พักได้ง่ายๆ ด้วยบริการ  Google My Business เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมองหาเงินลงทุนทำโรงแรมอยู่ ถือว่าเป็นโอกาสดีสุดๆ ในการทำธุรกิจ ท้ายนี้ สำหรับทุกท่านที่มีคำถามคาใจการเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฏหมาย +++!!!!��� �ทำยังไง ให้บ้านหรือตึกเก่าของเรา กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฎหมาย ? �ต้องติดต่อใคร หน่วยงานไหน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร...

Read more →


D DAY 9 กันยา วันสุดท้าย โรงแรมผิดกม. ต้องแจ้ง จนท.

D DAY 9 กันยา วันสุดท้าย โรงแรมผิดกม. ต้องแจ้ง จนท.

📢📢ด่วน เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท 0706/11859 เรื่อง การปฎิบัติตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 6/2562  เรื่อง มาตรการส่งเสริม และพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท ลงวันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 ▪ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง กฏหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายว่าด้วยโรงแรมต้องแจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามหลักเกณฑ์ในคำสั่งและต้องแจ้ง ⚠️ภายในวันที่ 9 กันยายน 2562⚠️ เท่านั้น ▪ พร้อมทั้งดำเนินการปรับปรุงระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยให้เป็นไปตามข้อ 2 ของคำสั่งดังกล่าว 💡💡จึงจะได้รับข้อยกเว้นโทษอาญาสำหรับความผิดตามกฎหมาย💡💡   ขณะนี้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจโรงแรมได้ ออกตรวจธุรกิจโรงแรมและที่พักทั่วประเทศ ผู้ประกอบการทุกคนต้องเร่งทำโรงแรมให้ถูกกฎหมายนะครับ ⚠️ อย่างไรก็ตามกฎหมายฉบับนี้บังคับเฉพาะใช้กับผู้ที่ทำธุรกิจโรงแรม ย้ำว่า ผู้ที่ทำสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ⚠️ ศึกษาให้ดีว่าเราเป็นประเภทไหน...เกิน4 ห้องเกิน 20 คนเป็นโรงแรมทันที ....ถ้าไม่เกิน 4 ห้องไม่เกิน 20 คนเป็นสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมจะไม่ถูกบังคับใช้ในกฎหมายฉบับนี้   ⚠️ เตรียมข้อมูลไว้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่นะครับเพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่จะทำการบังคับใช้ กับสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมไปด้วยซึ่งกฎหมายไม่ได้ให้มาบังคับใช้กับกลุ่มนี้ ⚠️ แต่สถานที่พักที่ไม่ใข่โรงแรมก็ยังต้องไปยื่นเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตประเภทนี้ตามปกติซึ่งถ้าไม่มีใบอนุญาตนี้ก็ถูกจับได้เช่นกัน   ขอให้ทุกท่านทำธุรกิจสำเร็จและได้รับใบอนุญาตกันทุกคนครับ ท้ายนี้ สำหรับทุกท่านที่มีคำถามคาใจการเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฏหมาย +++!!!!��� �ทำยังไง ให้บ้านหรือตึกเก่าของเรา กลายเป็นโรงแรมอย่างถูกกฎหมาย ? �ต้องติดต่อใคร หน่วยงานไหน มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร ? �ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ? �อาคารแบบไหน ที่ใช่ สำหรับทำโรงแรม ? �ต้องรู้กฏหมายข้อไหนบ้าง โดยไม่ต้องจ่าย ใต้โต๊ะ? และ อีกมากมายสารพัดปัญหาการทำโรงแรม��� !!!! เล่มนี้มีคำตอบ #หนังสือขายดีติดอันดับ จาก SE-ED LAW for SMALL HOTEL กฎหมายสำหรับโฮสเทลและโรงแรมขนาดเล็ก +++รวมเรื่องราวที่คนทำ Hotels ต้องรู้+++ +++สั่งซื้อราคาพิเศษ คลิกเลย...

Read more →