มีทำเลอยู่ 1 ที่ จะเลือกทำที่พักประเภทไหนดี? ระหว่างบูติคโฮเต็ล หรือโฮสเทล

Vtac Collaborator

มีทำเลอยู่ 1 ที่ จะเลือกทำที่พักประเภทไหนดี? ระหว่างบูติคโฮเต็ล หรือโฮสเทล

สำหรับท่านที่กำลังคิดว่าจะเริ่มทำธุรกิจโรงแรมบูติคโฮเต็ล และโฮสเทล มีหลายปัจจัยอย่างที่ต้องศึกษาก่อนเพื่อให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจที่จะลงมือทำ เพราะเมื่อเราศึกษาโดยละเอียดแล้วจะพบว่าการที่เรามีองค์ประกอบ หรือปัจจัยที่มีความพร้อมนั้นจะทำให้เราประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้การบริหารงานต่างๆเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้การวิเคราะห์ลูกค้า การบริการที่อยากทำให้กับลูกค้า โครงสร้างอาคาร รวมแม้กระทั้งกฎหมาย ปัจจัยที่กล่าวมาทุกอย่างจำเป็นต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะลงมือทำ

1.โครงสร้างอาคารเก่า

แน่นอนว่าบางทีสินทรัพย์ที่ได้มาอาจจะเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ เป็นอาคารเก่า โรงงานเก่า หรือบ้านเก่า ในการนำมาทำโรงแรมบูติคโฮเต็ล และโฮสเทล นั้นต้องคำนึงถึงเรื่องโครงสร้างเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเนื่องจากบ้านเก่าหรืออาคารเก่านั้นได้ผ่านการใช้งานมาแล้วระยะหนึ่ง จึงมักจะมีความเสื่อมโทรมของโครงสร้างไปตามกาลเวลา ดังนั้นในการลงทุนรีโนเวท ต้องศึกษาเรื่องโครงสร้างให้ดี และที่สำคัญคือเรื่องกฎหมายโครงสร้างอาคารต่างๆ ต้องศึกษาให้ดีจ้างวิศวกรหรือจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายโรงแรมเลยจะดีที่สุด

2.กลุ่มลูกค้าที่ต้องการ

วางแผนทำการตลาดว่าใครจะมาเป็นลูกค้าของคุณ ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญ เพราะเมื่อคุณรู้ว่าเป้าหมายของคุณคือใคร คุณจะสามารถทำงานและวางแผนจัดการระบบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ เชื้อชาติ ลองวิเคราะห์หาความต้องการของลูกค้าของคุณ คิดว่าเขาต้องการอะไร การบริการแบบไหน อะไรที่ตอบโจทย์เขาได้มากที่สุด จากนั้นก็จัดการโรงแรมบูติคโฮเต็ล หรือโฮสเทลของคุณได้เลย!

3.เงินลงทุน

ดูเงินทุนว่าเหมาะแก่การลงทุนประเภทไหน การก่อสร้างเพิ่มเติมต่างๆ ใช้งบประมาณเท่าไร เช่นบูติคโฮเต็ล จำเป็นต้องมีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องต้องใหญ่พอสมควร เครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆต้องให้เหมาะกับเงินที่ลูกค้าจ่ายมาให้ ส่วนโฮสเทล เป็นห้องน้ำรวม จำนวนเตียงมากขึ้น ทุกๆอย่างที่เพิ่มเติมล้วนเป็นเงินลงทุนที่จะต้องเสียไปทั้งนั้น เพราะฉะนั้น เงินลงทุนที่ใช้ไปควรให้สอดคล้องกับรายได้ที่จะเข้ามา เพื่อให้ระยะเวลาในการคืนทุนที่เร็วขึ้นอย่าลืมเรื่องแผนเงินทุนสำรองสำหรับธุรกิจด้วยเพราะว่าปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นเรื่องเงินทุน เงินหมุนเวียนในกิจการแม้กระทั่งเงินทุนสำรองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากวางแผนระบบเงินไว้อย่างดี ธุรกิจของคุณก็จะเกิดความคล่องตัวและดำเนินการได้อย่างมีเสถียรภาพ

4.กฎหมาย

เรื่องกฎหมายสำคัญที่สุด เพราะในการสร้างหรือดัดแปลงอาคารหรือที่พักต่างๆนั้น เราต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานรัฐเสียก่อน ซึ่งมีกระบวนการหลายขั้นตอน เพื่อให้ผ่านการอนุญาตนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจแบบที่ดิน ตรวจโครงสร้าง ตรวจสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยรวมเพื่อความปลอดภัยของเจ้าของโรงแรมและชุมชนใกล้เคียง เพราะฉะนั้น ผู้ที่จะเริ่มลงมือทำธุรกิจประเภทโรงแรมขนาดเล็ก ควรที่จะศึกษาเรื่องกฎหมายให้มากที่สุด เพราสุดท้ายแล้วถ้าไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ โรงแรมก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้เช่นกันตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนนะก่อนจะปลูกสร้างธุรกิจโรงแรมบูติคโฮเต็ล หรือโฮสเทลของคุณ ลองศึกษาดูดีๆ ก่อนนะเพราะอาจมีผลเสียตามมาทีหลังจนอาจถึงขั้นโดนสั่งปิดก็ได้

5.วิธีการบริการที่อยากทำ

ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจประเภททีพักโรงแรม บูติคโฮเต็ล และโฮสเทลนั้นคือ การบริการเพราะ การบริการที่ดีคือการให้ความช่วยเหลือ การดูแล การเอาใจใส่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สำคัญจะต้องทำด้วยความเต็มใจ แล้วลูกค้าจะได้รับความประทับใจและเกิดความชื่นชมในองค์กร อันเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่องค์กรของเรา ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบคลุกคลีกับผู้คนไม่ชอบดูแลคนอื่น คงทำธุรกิจประเภทนี้ไม่น่าจะได้ เพราะรายได้หลักของธุรกิจนี้มาจากลูกค้าที่มาพักแล้วประทับใจในการบริการแล้วพร้อมที่จะควักเงินจ่ายนั่นเอง ระหว่างบูติคโฮเต็ล กับโฮสเทลนั้น การบริการส่วนใหญ่ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก แต่จะอยู่ที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมากกว่าเช่น การเอาใจใส่ลูกค้าบูติคโฮเต็ลสำคัญกว่าเพราะเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เป็นลูกค้าที่ตั้งใจมาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะมาหลายคนๆ มาเป็นกรุ๊ปครอบครัวมีช่วงอายุต่างกัน ความต้องการต่างกัน ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ส่วนโฮเทส ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็น Backpacker มาเพื่อนอนพักอย่างเดียว ช่วงอายูประมาณ 18-40 ปี เป็นช่วงอายุที่ชอบผจญภัย มีความสะดวกสบายเป็นรอง ดังนั้นการดูแลจึงไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่ แต่ต้องการแค่เครื่องอำนวยสะดวกพื้นฐานก็พอ



Older Post Newer Post