July 15, 2019
•
Worapan King
ข่าวใหญ่โรงแรมโลกวันนี้ Marriott เชนโรงแรมระดับโลกวางแผนจะเข้ามาชิงเค้ก Home-sharing ด้วยการให้เช่าบ้านพักระดับพรีเมียม โดยแหล่งข่าวของ Wall Street Journal ชี้ว่า บริการที่ Marriott จะเปิดใหม่นั้นเป็นบริการระดับโลก โดยจะเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาก่อนเป็นประเทศแรก จะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ในชื่อ Homes & Villas by Mariott International โดยมีบ้านพักในระบบกว่า 2,000 แห่งในกว่า 100 จุดหมายปลายทางทั่วโลก
แผนธุรกิจครั้งนี้ยังทำให้แบรนด์ของ Marriott ไปปรากฏตัวในพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เช่น Amalfi Coast ในอิตาลี North Lake Tahoe ในแคลิฟอร์เนีย St. Barts ในแคริบเบียน โดยบ้านพักแต่ละแห่งนั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบ และรีวิวจาก Marriott ก่อน ซึ่งบริการที่ Homes & Villas by Marriott International จะมีให้นั้นรวมถึงบริการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อินเทอร์เน็ตไวไฟความเร็วสูง ชุดผ้าลินิน และสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องอาบน้ำ เช่น สบู่ ยาสระผม ฯลฯ ส่วนใครที่มีลูกเล็กมาด้วยก็สามารถแจ้งให้ทางที่พักทราบเพื่อจัดเตรียมไอเท็มสำหรับเด็กให้ด้วยได้เช่นกัน
โดยสิ่งที่ Marriott พบในช่วงทดสอบระบบก็คือ บ้านแบ่งเช่านั้นสามารถดึงดูดลูกค้าให้พักอยู่ได้นานกว่าโรงแรมถึง 2 เท่า เนื่องจากมีกลุ่มผู้เช่าที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่โรงแรมไม่มีให้ เช่น ห้องครัว หรือเครื่องซักผ้านั่นเอง แน่นอนว่า การเข้ามาของ Marriott กระทบต่อ Airbnb และโรงแรมเล็กทั่วโลกแน่นอน
แต่อย่าพึ่งตกใจไปถึงแม้ว่าโรงแรมของคุณจะเล็กกว่า มีเงินน้อยกว่า มีคนน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่สามารถแข่งขันกับยักษใหญ่ที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมกว่าได้ แค่คุณต้องหาวิธีที่จะสู้ให้ฉลาดขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และนี่คือคำแนะนำของเราเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถนำไปใช้ในการสู้กับโรงแรมที่มีทุกอย่างพร้อมกว่าคุณ
1.หาจุดแข็งของโรงแรมให้เจอ แล้วเลือกสิ่งที่เจ๋งที่สุดของโรงแรมคุณ
ไม่มีโรงแรมไหนที่ไม่มีจุดแข็งในตัวเองเลย อยู่ที่คุณจะหามันเจอหรือเปล่า บางทีมันก็ซ่อนอยู่เหมือนเพชรในตมที่รอการค้นพบ จุดแข็งที่สามารถค้นเจอได้ง่ายก็ เช่น – สถานที่ตั้ง – ราคา – ความเชี่ยวชาญเฉพาะถิ่น – คุณภาพ – ดีไซน์การออกแบบ – สไตล์ – เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมดั้งเดิม
2.เลือกกลุ่มเป้าหมายให้เจาะจงมากขึ้นโดยอิงกับจุดแข็งของโรงแรม
เลือกลูกค้าที่คุณคิดว่าจะชอบสิ่งที่คุณเป็น แล้วมุ่งเน้นในการพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่เจาะจงไปหากลุ่มเป้าหมายนี้ โดยตัดกลุ่มอื่นทิ้งไป คุณจะได้ลงแรงการตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้ได้เต็มที่ จริงอยู่ที่การมีลูกค้าหลายๆประเภทเข้าพักโรงแรมของคุณสามารถลดความเสี่ยงในกรณีที่ลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งขาดหายไป แต่ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นลูกค้า คุณจะชอบหรอถ้าโรงแรมรับลูกค้ามามั่วๆ โดยไม่คัดกรองความเหมาะสมเลย ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมที่เน้นเรื่องบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะที่จะเข้าพักเพื่อชมธรรมชาติและหลีกหนีความวุ่นวายในสังคมเมือง แต่โรงแรมกลับเอาลูกคี่เป็นกรุ๊ปทัวร์มาลง ซึ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายและส่งผลต่อบรรยากาศโดยรวมของโรงแรม ถ้าคุณเป็นแขกที่ต้องการความเงียบสงบ คุณจะชอบไหม
3.วาง Positionของแบรนด์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่เลือก
วางจุดยืนของโรงแรมให้กลุ่มลูกค้าที่คุณเลือกคิดว่านี่แหละ โรงแรมที่เขาจะต้องเลือกเพราะโรงแรมของคุณมันโดนใจพวกเขาและสะท้อนความเป็นตัวตนของพวกเขา แล้วปรับจุดแข็งให้แข็งยิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่คุณเลือกให้โดนใจพวกเขามากที่สุด การที่โรงแรมไม่มีจุดยืนก็เหมือนเป็นการทำให้แบรนด์ของตัวเองกลายเป็นแบรนด์ทั่วไปที่ลูกค้าไม่สนใจ เหมือนเป็นแค่โรงแรมธรรมดาๆที่พบเจอได้ทั่วไป กลายเป็นสินค้าที่จะถูกซื้อด้วยปัจจัยทางด้านราคามากกว่าความเป็นคุณ การสร้างจุดยืน( Position)ให้โรงแรมของคุณสามารถทำให้คุณฉีกหนีการแข่งขันออกมาในจุดที่มีการแข่งขันน้อยกว่า ในกลุ่มเป้าหมายที่สดกว่า และนี่แหละคือสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณสามารถสู้กับโรงแรมใหญ่ที่มีงบการตลาดสูงกว่าคุณเป็นสิบๆเท่าได้
4.ลุยการตลาด Onlineมากขึ้น
ผู้บริโภคสมัยนี้หันมาเสพย์สื่อออนไลน์มากขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนแซงหน้าสื่อดั้งเดิมอย่างเช่น โทรทัศน์ หรือสิ่งพิมพ์ ในบางประเทศ และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นในอีกส่วนที่เหลือในโลก การตลาดออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเจาะตลาดผู้บริโภคสมัยนี้
5.ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารโรงแรม
เทคโนโลยีโรงแรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการ(PMS) โมบาย การขายห้องพัก( Web Booking Engine) การกระจายห้องพัก( Channel Manager) หรืออื่นๆ ช่วยให้โรงแรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนในการบริหารงานที่ถูกลง ใช้คนน้อยลง และช่วยส่งเสริมการทำงานอัตโนมัติซึ่งช่วยลดเวลาการทำงานได้อย่างมาก ทำให้โรงแรมสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับโรงแรมที่มีงบการตลาดมากกว่าคุณได้
การปรับผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) เป็นเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในปัจจุบัน ผู้บริโภคคาดหวังประสบการณ์ที่เหมาะกับตัวตนมากขึ้น ตั้งแต่การเริ่มค้นหาห้องพักไปจนถึงการเช็กเอาต์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโอกาสและจุดขายในการสร้างสรรค์โรงแรมในอนาคต .
และสำหรับทุกท่านที่เริ่มหรือกำลังทำธุรกิจบูติคโฮเต็ล โฮสเทล และโฮมสเตย์ ที่อยากทราบขั้นตอนการทำ และวิธีเปลี่ยนตึกเก่าให้เป็นโรงแรมอย่างถูกกฎหมาย เราขอแนะนำหนังสือที่สมาคมโรงแรมไทยให้การรับรอง LAW for Small Hotel กฎหมายสำหรับโรงแรมขนาดเล็ก รวมทุกเรื่องราว เช่น รายละเอียดและตัวอย่างเอกสารที่ต้องใช้สำหรับการดำเนินการทุกขั้นตอน รายละเอียดกฎหมายที่ต้องรู้ พร้อมคำอธิบายที่เข้าใจได้ง่ายมาก และทำโรงแรมอย่างไร ให้ถูกกฎหมายไม่ให้โดนปิดกิจการทีหลัง สามารถสั่งซื้ออนไลน์ได้ทาง https://theboutiqueking.com/collections/books/products/law-for-small-hotels-1
--------- ขอบคุณข้อมูล BrandBuffe Homemade Stay ---------
← Older Post
Newer Post →