Day 1 until Now

แม้พังงาจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เป็นที่รู้จัก ตั้งแต่ อำเภอตะกั่วป่า ไปจนถึงเสม็ดนางชี แต่ตัวเมืองพังงาที่เคยรุ่งเรืองกลับถูกลืมเลือนไปอย่างช้าๆ   กระทั่งเมื่อ 8 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำธุรกิจที่พัก คุณเจน-ณัฐธิดา มุขแก้ว และสามี จึงได้เริ่มศึกษาเรื่องการทำโรงแรมอย่างจริงจัง และได้เข้าเรียนคลาส Small Hotel Management โดยอาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์

ที่นี่เอง ที่เปิดโลกให้คุณเจนได้รู้จักกับโลกของการทำโรงแรมด้วย Passive Design ที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติซี่งสอดคล้องกับภาพโรงแรมที่เคยวาดฝันไว้ ความคิดที่จะเปลี่ยนบ้านเก่าอายุกว่า 60 ซึ่งได้เป็นมรดกมาเป็นโรงแรมบูติก6ห้องจึงได้เริ่มขึ้น

 

ตลอดช่วงเวลาหลายปีขอการทำโรงแรม คุณเจนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายอยู่หลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ขั้นก่อสร้าง การขออนุญาต และวิกฤตโควิดที่แทบจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลายเป็นอัมพาต และจากนี้คือ 5 ข้อคิด ที่คุณเจนได้ตกผลึกจากประสบการณ์การทำบูติคโฮเต็ลในนาม Phang Nga Origin Hotel

1.เคารพภูมิปัญญา : ด้วยความตั้งใจจริงของคุณเจน บวกกับความช่วยเหลือจากครูช่างและช่างในพื้นที่อีกหลายท่านที่ได้กรุณาแนะนำและถ่ายทอดภูมิปัญญาช่างผ่านการสร้างเป็นผลงานในจุดต่าง ๆ  ผลลัพธ์ที่ได้จึงมอบกลิ่นอายของเรือนพื้นถิ่นได้เป็นอย่างดี บ้านโบราณในพังงานั้นคือบ่อน้ำกลางบ้านเช่นเดียวกับภูเก็ต ซึ่งช่วยให้ลมที่พัดผ่านเข้ามาในบ้านเย็นยิ่งขึ้น ส่วนการเข้าไม้ในยุคนั้นก็ถูกประกอบได้โดยไม่ต้องใช้ตะปูซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก จึงให้ครูช่างเอาชิ้นไม้จากบ้านเก่าเหล่านี้มาประกอบใหม่เป็นม้านั่งให้กับทุกๆห้อง

2.อยู่อย่างยั่งยืน : เนื่องจากเริ่มเปิดทำการในช่วงโรคระบาด จึงมีการคิดเรื่องการระบายอากาศเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่เพียงลม แต่ทิวทัศน์และแสงเงาธรรมชาติก็ได้เพิ่มเข้ามาด้วย คุณเจนยังได้เล่าถึงงานออกแบบของ เจฟฟรี่ย์ บาว่า สถาปนิกชาวศรีลังกา ว่าเป็นแรงบันดาลใจที่อาจารย์วรพันธุ์ได้ให้ตั้งแต่ไว้ในห้องเรียน พืชพรรณที่ใช้ภายในอาคารก็ถูกเลือกสรรมาอย่างตั้งใจ โดยต้นไม้ที่มีบทบาทมากได้แก่ต้นพลูด่าง ต้นจิกน้ำ ต้นจั๋ง ต้นหมากเขียวและต้นหมากเหลือง ที่นอกจากจะช่วยกรองอากาศได้ดีแล้ว ยังมอบความร่มรื่นให้สายตา ส่วนปุ๋ยนั้นเลือกเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพที่มาจากเศษใบตองในการเตรียมอาหาร

3.การแบ่งปัน ความเอื้ออาทรของโรงแรมนั้นปรากฏตั้งแต่งานออกแบบของอาคาร ส่วนที่เรียกว่า “หง่อคาขี่” คือซุ้มโค้งรูปเกือกม้าที่อยู่ในบ้านแถวจีนภาคใต้ ใช้เป็นพื้นที่กันแดดกันฝนร่วมกันระหว่างเพื่อนบ้านและผู้ที่สัญจรผ่าน องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมนี้ก็ถูกถ่ายทอดเข้ามาในงานรีโนเวตในเชิงสัญลักษณ์ด้วย แต่ที่สำคัญ การบริการเป็นประเด็นที่แสดงถึงการแบ่งปันได้ดีที่สุด ทั้งการบริการภายในโรงแรมเอง ไปจนถึงไกด์ผู้พาทัวร์เมืองต่างก็ได้รับผลลัพท์ในเชิงบวกจากการมีอยู่ของโรงแรม “การพัฒนาคนนั้นสำคัญที่สุด” คุณเจนกล่าว พนักงานทุกคน คือลูกหลานในพื้นที่ที่ทางโรงแรมยินดีถ่ายทอดทักษะงานบริการ และปลูกฝังทักษะรักการเรียนรู้ให้นอกจากรายได้จากการทำงาน

4.ไม่ฉาบฉวย เป็นธรรมดาที่การโปรโมทการท่องเที่ยวใหม่ๆ จะได้รับความสนใจในช่วงแรก แต่การทำให้เกิดการใช้ซ้ำนั้นเป็นเรื่องไม่ง่าย งานภูมิปัญญานั้นมีประโยชน์ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะผสมผสานความร่วมสมัยเข้าไปบ้างเพื่อรองรับการใช้งานในปัจุบัน แขกต้องมาแล้วรู้สึกสบาย หลับสนิท  “เรียบง่ายและมีจุดยืน” เป็นคำจำกัดความที่คุณเจนได้มอบให้กับจุดขายโรงแรมนี้ “ต้องไม่ลืมว่า โรงแรมนั้นมีจุดยืนที่ sustain, sharing และเคารพต่อท้องถิ่น” คุณเจนเสริม ซึ่งทำให้เกิดการบอกต่ออันเป็น marketing ที่จริงใจและเหมาะกับขนาดของโรงแรม

5.ไม่หยุดพยายาม แม้จะต้องพบกับอุปสรรคจนคนรอบข้างแสดงความห่วงใย แต่คุณเจนและสามีก็ยังสู้จนถึงที่สุด ตั้งแต่การขออนุญาตที่ใช้เวลานาน แต่เมื่อเปิดก็ต้องพบกับพิษ โควิด-19 อีก แต่นี่ก็เป็นโอกาสให้เกิดการพัฒนามาตรฐานโรงแรมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก “สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือเรา ไม่เคยหยุดเรียนรู้ ไม่เคยหยุดพยายาม” คุณเจนทิ้งท้าย

 

สำหรับท่านที่ต้องการ ลงทุนในธุรกิจ Boutique Hotel และต้องการหาความรู้ เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล มีหลักสูตรที่หลากหลาย

- ตั้งแต่Boutique hotel Masterclassเรียน (10 วัน)

- หลักสูตร The Grand Hotel Tour ดูงานบ้านสวนและโรงแรม 5 ดาวที่ศรีลังกาผลงาน

เจฟฟรี่ บาว่า (Geoffrey Bawa) สถาปนิกโรงแรมเมืองร้อนที่โด่งดังที่สุด

- หลักสูตร Luxury ฺButique Service & Design Masterclass ที่ทางเราจัดร่วมกับ Nailert Academy จากบ้านปาร์คนายเลิศ

ยังมี ทีมสถาปนิกออกแบบโรงแรมและให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายโรงแรม สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

โทร : 096-749-6868

Line OA : theboutiqueking