•
Natthika Wanglabcharoen
ภายในปี 2030 (หรือ พ.ศ. 2573) นี้ ประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุที่ 60 ปีขึ้นไปรวมแล้วมากกว่า 1 ใน 4 ของประเทศ สอดคล้องกับที่ลูกเพจหลายๆ ท่านมักจะบ่นกับเราเสมอว่า เมื่อถึงวันที่ใกล้จะต้องเกษียณอายุ จะรู้สึกแปลก ๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานที่ลดลง สุขภาพที่เริ่มเสื่อมโทรม รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเงิน เพราะรายได้ประจำจะหายไปในขณะที่รายจ่ายยังคงมีต่อเนื่อง
ยิ่งคนโสดเมื่อแก่ชราไปยิ่งต้องดูแลตัวเองมากกว่าคนอื่น การวางแผนการเงินและการลงทุน จึงเป็นส่วนสำคัญต่อชีวิตในบั้นปลาย
ดังนั้นวันนี้เราจึงขอแนะนำว่าในวัยเกษียณนั้น คุณควรนำเงินไปลงทุนอะไรบ้าง และทางที่ดีคุณควรแบ่งเงินลงทุนไว้เป็นหลายๆ ส่วนเพื่อเฉลี่ยความเสี่ยง ซึ่งวันนี้เราขอยกตัวอย่างการแบ่งการลงทุนเป็น 3 ระยะ 3 ส่วน ดังนี้
1. เงินลงทุนระยะสั้น คือเอาไว้ใช้วันต่อวัน
เงินในส่วนนี้จะนำไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เคยเห็นเทคนิคการเก็บเงินหยอดกระปุกวันละ 50 บาท นั่นก็เป็นเหมือนการฝากได้เช่นกัน เพราะข้อดีของมันก็คือ ไม่ต้องเสี่ยงไปกับการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งยังได้คุณค่าทางใจจากการเก็บหอมรอมริบไว้เป็นประจำ เพียงแต่วิธีนี้ไม่มีดอกเบี้ยไว้ทำกำไรให้งอกเงย อีกทั้งเมื่อนับวันไปเงินในกระปุกก็อาจมีมูลค่าน้อยลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มสูงขึ้นทุก ๆ ปี การลงทุนในการฝากธนาคารในรูปแบบออมทรัพย์และฝากประจำระยะสั้น ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนระยะสั้น เพราะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนอาจจะน้อยไปนิด ซึ่งจะให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำแต่ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย หรือถ้าอยากได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ก็ลองฝากประจำระยะยาว โดยสามารถปรึกษารูปแบบการฝากได้จากเจ้าหน้าที่ซึ่งจะทำให้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียดได้ดียิ่งขึ้น
2. เงินลงทุนระยะกลาง เน้นขาดทุนน้อยที่สุด
เงินลงทุนในส่วนนี้จะเน้นไปที่การรักษาเงินต้นที่ลงทุนแต่ก็พยายามให้มีการขาดทุนน้อยที่สุด หรือพูดง่าย ๆ คือ พยายามให้ชนะเงินเฟ้อ โดยนำไปลงทุนตราสารหนี้ซะส่วนใหญ่ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะขาดทุน ขณะเดียวกันก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนจากการที่ชนะอัตราเงินเฟ้อ หรือการฝากประจำที่สามารถรับดอกเบี้ยเป็นรายเดือนก็น่าลงทุนเช่นกัน เพราะการฝากเงินในลักษณะนี้เหมือนมีบำนาญไว้ใช้ซึ่งจะสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้สูงอายุ เมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นก็ยังสามารถไปถอนเงินก้อนออกมาใช้ก่อนกำหนดได้ และในขณะเดียวกันก็ยังได้รับดอกเบี้ยเป็นรายเดือนเหมือนเดิมอีกด้วย
และ 3. เงินลงทุนระยะยาว การลงทุนที่เราควรมีความสุขกับมัน
เหมาะกับการลงทุนที่มีระยะ 10 ปีขึ้นไป โดยเป้าหมายจะเน้นไปที่ผลตอบแทนที่แน่นอนและมีการงอกเงยของจำนวนเงิน คุณก็อาจจะเพิ่มการลงทุนไปที่พวกตราสารทุนมากหน่อย และลดสัดส่วนของตราสารหนี้ลงเล็กน้อย แบบนี้จะทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวมีโอกาสสูงเพิ่มมากขึ้น
การลงทุนที่น่าสนใจมากๆ สำหรับกลุ่มนี้คือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการทำโรงแรมก็เป็นสิ่งที่เราพูดมาตลอดว่า เหมาะกับผู้ทำงานในวัยเกษียณ ใครที่กังวลกับเรื่องของเงินเฟ้อที่จะส่งผลกระทบต่อทรัพย์สินที่เราลงทุน เราขอแนะนำให้คนหลังเกษียณอายุเลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว โดยเงินลงทุนจากอสังหาริมทรัพย์จะมาจากค่าเช่าหรือกำไรส่วนต่างราคาซื้อขายที่มักปรับตัวไปตามอัตราเงินเฟ้อ เพียงแต่ข้อเสียของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็คือ เรื่องสภาพคล่องที่อาจไม่สูงมากนัก เพราะต้องใช้เงินเย็นในการลงทุน จึงเหมาะสำหรับคนอยากลงทุนเก็งกำไรในระยะยาวหลังเกษียณอายุ
แล้วทำไมธุรกิจบูติคโฮเต็ลจึงน่าลงทุน?
รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวและธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กในปัจจุบัน มีการพัฒนาไปเป็นอย่างมาก รวมถึงการเปิดAEC จำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น และความต้องการเดินทางไปค้นหาประสบการณ์ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษา และมีกำลังซื้อ ทำให้เกิดความต้องการที่พักในรูปแบบใหม่ จำนวนมาก
นอกจากนี้ความนิยมที่พักสไตล์บูติคโฮเต็ลมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีเงินทุนไม่มาก ทำให้สามารถพัฒนาที่พักขนาดไม่ใหญ่นัก โดยเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและตกแต่งให้มีลักษณะเฉพาะตัว และมีการให้บริการอย่างใส่ใจและใกล้ชิดเป็นรายบุคคล
- เงินทุนเริ่มต้น 0-100,000 บาท ก็สามารถทำได้
- รายรับต่อวัน มีไม่กี่ห้องก็ทำได้
- สามารถทำได้ในทุกๆพื้นที่ของประเทศไทย
- กำไรสูง คืนทุนเร็ว ไม่แข็งราคา
- สามารถทำงานที่บ้านได้
โดยเฉพาะในการปลดล็อคกฏหมายโรงแรมเมื่อเร็วๆ นี้ นักลงทุนหน้าใหม่ๆ ที่ตั้งใจทำโรงแรมให้ถูกต้องตามกฏหมาย จะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มมากขึ้นกว่าในอดีต สามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงหากต้องการขายกิจการก็สามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมายได้ ไม่ต้องปิดบังเหมือนในอดีต นอกจากนี้ ธนาคารหลายๆ แห่งก็สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มารองรับนักลงทุนบูติคโฮเต็ล พร้อมสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และการอำนวยเรื่องสินเชื่อ ที่มีความสะดวกและอัตรดอกเบี้ยและวงเงินที่น่าสนใจ เช่น ของ SME BANK หรือ ออมสิน เป็นต้น
ท้ายนี้ สำหรับทุกท่านที่สนใจ หรือกำลังเริ่มต้นลงทุนในกิจการบูติคโฮเต็ล โรงแรมเล็ก และ โฮสเทล เราขอแนะนำชุดหนังสือและซีดี Audio ที่รวบทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนลงมือทำบูติกโฮเต็ล โฮสเทล และโฮมสเตย์ในฝันให้ประสบความสำเร็จ ถ่ายทอดโดยตรงจากนักบริหารการโรงแรมมากประสบการณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จโรงแรมเล็กชั้นนำหลายแห่ง เริ่มจากแบบสำรวจตัวเอง การวิเคราะห์การลงทุน แนวคิดรูปแบบที่โดดเด่นน่าดึงดูด เงินลงทุน แหล่งเงินทุน กระบวนการวางแผนก่อนเปิดบริการ ลูกค้า การสือสาร รวมถึงวิธีการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการที่ดี นำเสนอด้วยสำนวนภาษาเข้าใจง่าย ช่วยให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จเร็วขึ้นไปอีกขั้น (ราคาพิเศษวันนี้ เมื่อซื้อเป็นชุด) สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง https://theboutiqueking.com/collections/books-cd
---------
ขอบคุณข้อมูล
เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล
SME Bank
BLOOMBERG
---------
ติดตามบทความดีๆ ด้านการสร้างสรรค์โรงแรม บูติคโฮเต็ล โฮสเทล และโฮมสเตย์ โดยทีมงานสถาปนิก ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านการออกแบบ การตลาดและการลงทุน ได้ทางเพจ เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ล : School of Creative Hotel Makers ได้ฟรีทุกสัปดาห์ และอ่านย้อนหลังบทความทั้งหมดพร้อมข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ได้ทางเว็บไซต์ https://theboutiqueking.com/
← Older Post
Newer Post →