Hotel Growth 2020-2022

Natthika Wanglabcharoen

คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจโรงแรม
2562-2564

ข่าวดี!!!

ธุรกิจโรงแรม (โรงแรม รีสอร์ท และเกสต์เฮ้าส์) เป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการ ท่องเที่ยวเป็นสำคัญ  มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หมวดโรงแรม และภัตตาคารปี 2561 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5.6%ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั้งหมด หรือประมาณ 9.2แสนล้านบาท

ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว ต่างชาติ  จากการมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดความสนใจติดอันดับโลกกระจายอยู่ ตามภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความ นิยมสูง สะท้อนจากรางวัลที่ได้รับจากหน่วยงานต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  

 

นอกจากนี้ภาคใต้/ภาคตะวันออกยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียง และ พื้นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย 

นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีความได้เปรียบในด้านราคาห้องพักและค่า ครองชีพที่อยู่ในระดับต่่า ท่าให้การท่องเที่ยวในไทยมีความคุ้มค่าเงิน (Value for money) กอปรกับการคมนาคมที่สะดวกมากขึ้นจากโครงสร้าง พื้นฐานที่ทยอยพัฒนาเป็นล่าดับทั้งนี้  ดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้านการท่องเที่ยว (Travel & Tourism Competitiveness Index)

ล่าสุดปี2560 ของ World Economic Forum จัดให้ไทยอยู่อันดับ 34 จากทั้งหมด 136 ประเทศทั่วโลก และอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจาก สิงคโปร์และมาเลเซีย   โดยเฉพาะความสามารถทางการแข่งขันด้าน ทรัพยากรธรรมชาติของไทยมีอันดับที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ใน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

เมื่อพิจารณาด้านอุปสงค์ของธุรกิจโรงแรมจากรายได้ของ นักท่องเที่ยวพบว่า  นักท่องเที่ยวต่างชาติก่อให้เกิดรายได้คิดเป็น สัดส่วนสูงถึง 65% ของรายได้จากการท่องเที่ยวรวม  เนื่องจาก นักท่องเที่ยวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงและจำนวนวันพักยาวกว่าคนไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และ ไต้หวัน) ถือเป็นตลาดหลักทั้งด้านรายได้ (สัดส่วน 40% ของรายได้จาก นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด) และจำนวน (สัดส่วน 41%ของจำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด)  รองลงมาด้านรายได้ คือ ตลาดยุโรป คิดเป็น 25%ส่วนด้านจำนวนนักท่องเที่ยว รองลงมา คือ ตลาดอาเซียน คิดเป็น 27%

ธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงปี 2562-2564ตามการเติบโตของภาคท่องเที่ยว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย จะขยายตัวในอัตราเฉลี่ย 5-7%ต่อปี และ 3-4%ต่อปี ตามลำดับ หนุนให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 71.5-72.5%เทียบกับ 71.4%ในปี 2561 

ผู้ประกอบการมีแนวโน้มขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมต่อเนื่องทั้ง 

1) ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก (กรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของ ผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งกลุ่มนักลงทุนไทยและต่างชาติ  และ 

2) จังหวัดศูนย์กลางความเจริญภูมิภาค แหล่งท่องเที่ยวและจังหวัดรองที่ได้รับอานิสงส์จาก การขยายตัวของกจิกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ระหว่างภูมิภาคมากขึ้น ทั้งนี้  จ านวนห้องพักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประกอบกับ การเปิดให้บริการเช่ารายวันของสินค้าทดแทน (เช่น อพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียม) รวมถึงสถานพักแรมรูปแบบBooking Platformอาทิ Airbnbทำให้การ แข่งขันของธุรกิจยังคงรุนแรง

 

และสำหรับทุกท่านที่สนใจ หรือกำลังเริ่มต้นลงทุนในกิจการบูติคโฮเต็ล โรงแรมเล็ก โฮสเทล และ โฮมสเตย์ เราขอแนะนำชุดหนังสือและซีดี Audio ที่รวบทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนลงมือทำบูติกโฮเต็ล โฮสเทล และโฮมสเตย์ในฝันให้ประสบความสำเร็จ ถ่ายทอดโดยตรงจากนักบริหารการโรงแรมมากประสบการณ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จโรงแรมเล็กชั้นนำหลายแห่ง เริ่มจากแบบสำรวจตัวเอง การวิเคราะห์การลงทุน แนวคิดรูปแบบที่โดดเด่นน่าดึงดูด เงินลงทุน แหล่งเงินทุน กระบวนการวางแผนก่อนเปิดบริการ ลูกค้า การสือสาร รวมถึงวิธีการที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจในบริการที่ดี และความรับผิดชอบต่อสังคม นำเสนอด้วยสำนวนภาษาเข้าใจง่าย ช่วยให้คุณเข้าใกล้ความสำเร็จเร็วขึ้นไปอีกขั้น

(ราคาพิเศษวันนี้ เมื่อซื้อเป็นชุด) สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง https://theboutiqueking.com/collections/books-cd

 

#SocialBusiness

#SocialEnterprize

-----

ขอบคุณข้อมูล

Krungsri

 

#เปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเตล

#homemadestay

#theboutiqueking

#CultureHotel 

#การสร้างโรงแรม

#ธุรกิจโรงแรม

#บริหารโรงแรม

 

 



Older Post Newer Post