1. คลีน คลีน คลีน
แค่รักษาความสะอาดไม่พอ ภาพลักษณ์โรงแรมก็ต้องดูสะอาดหมดจดด้วย เพื่อความสร้างมั่นใจให้แขกที่เข้าพัก อาจเลือกใช้เทคโนโลยีระบบเซ็นเซอร์ เช่นประตู-ก็อกน้ำอัตโนมัติเสริมด้วย
2. โปร่ง โล่ง ระบาย(อากาศ)
นอกจากประเด็นเรื่องเชื้อโรคในห้องแอร์ ถ้ามาเที่ยวโรงแรมที่สภาพแวดล้อมดีแล้วไม่ได้สัมผัสบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็น ลม กลิ่น เสียง ที่อยู่โดยรอบ ก็คงเหมือนมาไม่ถึงที่จริงไหม?
3. 20 ห้องเลขมหัศจรรย์
ธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันเริ่มลดจำนวนห้องลง เพื่อให้ลงทุนกับการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้เข้าพักให้มากที่สุด โดยเลขประมาณ 20 ห้องนี้ เป็นจำนวนที่ยังควบคุมคุณภาพได้ง่าย แต่ยังคุ้มค่ากับการลงทุน
4. วัยเก๋า กระเป๋าหนัก
ผู้สูงอายุเป็นช่วงวัยที่มีทั้งเงินและเวลา ที่สำคัญจำนวนนึงยังสามารถท่องเที่ยวได้ไม่ต่างกับวัยรุ่น การตอบโจทย์รสนิยมและอุปนิสัยของคนกลุ่มนี้จะช่วยสร้างแรงดึงดูดได้ไม่น้อย
5. เอาใจชาวรถเข็น
สำหรับผู้มีรถเข็น อาจมีลิฟต์ตัวเล็กหรือทางลาดที่มีความชันตามมาตรฐานที่1:12 รวมถึงห้องน้ำ ควรทำให้ใช้งานได้สะดวก
6. อย่าทิ้งน้อนน
นักท่องเที่ยวบางกลุ่มอาจมีความจำเป็นต้องนำสัตว์เลี้ยงมาพักด้วย หากโรงแรมสามารถตอบโจทย์นี้ได้ ก็อาจนำมาชูเป็นจุดขายได้เช่นกัน
7. (กลุ่ม)เป้าหมาย มีไว้พุ่งชน!
การชูจุดขายสำหรับบุคคลเฉพาะกลุ่ม (niche market) เป็นวิธีการที่ดี ที่จะกลบจุดอ่อนด้านทำเลที่ตั้งหรือความสวยงามของโรงแรม สร้างเป็นคอมมูนิตี้ที่พักใจของกลุ่มคนที่ชื่นชอบอะไรเหมือนๆกัน
8. บ้านนอกคือทางออก
โรงแรมในเมืองรองมักโดนดูถูกในแง่ที่ตั้ง แต่หากมีจุดขายที่น่าสนใจ ก็มีโอกาสที่นักเดินทางจะยอมออกนอกเส้นทางเล็กน้อยเพื่อแวะมาเข้าพักได้ นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งน้อยรายอีกด้วย
9. รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมชุมชน
การเลือกใช้สิ่งของต่างๆ ตั้งแต่เครื่องแบบ วัสดุตกแต่ง ฯลฯ ที่เป็นของพื้นถิ่น จะช่วยสร้างภาพจำให้นักท่องเที่ยว และยังช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชนด้วย
10. อาหารถิ่น กินใจ ไม่รู้ลืม
เมนูอาหารควรเลือกวัตถุดิบที่มีในพื้นที่มาพัฒนาทั้งรสชาติและการนำเสนอ ให้มีเอกลักษณ์ นอกจากจะสดใหม่ ยังช่วยบอกเล่าเรื่องราวของพื้นที่ และยังลดค่าขนส่งวัตถุดิบได้อีกด้วย