Featured

<< 𝗖𝗮𝘀𝗲 𝗦𝘁𝘂𝗱𝘆 บูติคโฮเต็ลระดับโลก >> เปลี่ยน “อาคารเก่า” ให้กลายเป็น “โอเอซิสกลางเมือง”แบบ Manon Les Suite โรงแรมบูติคสุดเก๋ในโคเปนเฮเกน ทริปดูงานบูติคโฮเต็ลระดับโลกแถบสแกนดิเนเวีย (เดนมาร์ก สวีเดน และนอร์เวย์) ของเพจเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติคโฮเต็ลเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราแวะดูงานกันที่ Manon Les Suite โรงแรมบูติคสุดเก๋ในโคเปนเฮเกน โรงแรมแห่งนี้ถูกรีโนเวตจากตึกเก่าให้กลายเป็นโอเอซิสสไตล์เมืองร้อน ในย่านใจกลางเมือง ซึ่งไม่ใช่ย่านท่องเที่ยวโดดเด่นอะไร แต่กลายเป็นตัวอย่างระดับโลกในการรีโนเวตอาคารเก่าให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในรูปแบบที่ทั้งสวยงาม สงบ และยั่งยืน โดยที่ยังคงรักษารูปทรงของอาคารเดิมไว้อย่างดี พร้อมเพิ่มกลิ่นอายแบบ Tropical Bohemian เข้ากับหลักการออกแบบเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวคิดที่กล้าท้าทายโรงแรมทั่วไปในยุโรป แนวคิดอะไรที่ทำให้ Manon Les Suites “แตกต่าง” และ “ขายได้” ∙ โอบกอดความเก่า: Manon Les Suites เลือกที่จะคงโครงสร้าง รูปทรง และวัสดุบางส่วนของอาคารเดิมไว้ โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือดีไซน์ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำใน Atrium ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้ ราวกับยกเรือนป่ามาไว้ภายในอาคาร พร้อมการจัดวางแบบ Open-plan และการใช้แสงธรรมชาติจากช่องเปิด skylight ขนาดใหญ่ ทำให้ทุกพื้นที่ดูโล่ง โปร่ง และรู้สึกสดที่ชื่นเหมือนพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ตเขตร้อน ทั้งที่ยังอยู่ใจกลางเมือง ∙ ดีไซน์ที่เล่าเรื่อง: องค์ประกอบการตกแต่งที่ใช้วัสดุธรรมชาติ เพื่อเพิ่มระดับประสบการณ์ในการพักผ่อน ตั้งแต่ไม้จริงผ้าลินินธรรมชาติ ไปจนถึงเครื่องจักสานจากหวาย ทั้งหมดนี้ผสมผสานเข้ากับลวดลายแบบ Moroccan ที่ช่วยเสริมอารมณ์ exotic และอบอุ่นในทุกมุมของโรงแรม สะท้อนรสนิยมที่แฝงความผ่อนคลายและอิสระในแบบโบฮีเมียน ∙ จุดยืนที่ยั่งยืน: Manon Les Suites ไม่ได้แค่สวย แต่ยังมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ตั้งแต่การใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ทั้งระบบ ไปจนถึงการเสิร์ฟ อาหาร Organic ที่ใช้วัตถุดิบจากแหล่งท้องถิ่นอย่างยั่งยืน หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ การ ออกแบบห้องน้ำแบบ Gender Neutral ไม่มีการแบ่งแยกเพศ ซึ่งสะท้อนความใส่ใจและเจาะกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญ เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ∙...

*เนื้อหาต่อไปนี้ ถูกสรุปและเรียบเรียงมาจากการบรรยายในงาน Bedtalk โดยทีมงานเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติกโฮเต็ล วันที่ 5 - 6 เมษายน 2567* “เมื่อเอ่ยถึงโรงแรมที่อยู่หลังวชิรพยาบาล คนอาจจะยังนึกไม่ออก แต่พอพูดว่าโรงแรมของน้อยวงพรู ทุกคนก็จะหายสงสัยทันที ” เป็นประโยคเปิดตัวที่เร้าใจปนขบขันของคุณบิ๊บ วิทยากรรับเชิญท่านแรกของงานกล่าว “ เดอะ สยาม ” เป็นชื่อของโรงแรม 5 ดาว ขนาดเล็ก ที่สร้างปรากฏการอันยิ่งใหญ่ให้กับวงการโรงแรมของไทย ด้วยการคว้าอันดับที่ 42 จากรางวัล  50 best hotel ที่จัดแข่งขันประกวดโรงแรมหรูจากทั่วโลกมาได้ แม้จะเปิดได้เพียงไม่กี่ปีและไม่ใช่โรงแรมเครือใหญ่จากต่างชาติด้วยซ้ำ ในงานสัมมนา Bedtalk จุดขายโรงแรมระดับโลก ในวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา คุณบิ๊บ นลดา ศิริสัมพันธ์ โกห์  marketing & operation manager ของโรงแรม เดอะ สยาม ได้ให้เกียรติมาบรรยายถึงที่มาของความสำเร็จเป็นครั้งแรกหลังได้รับรางวัลเมื่อปลายปี 2023 ที่ผ่านมา และต่อไปนี้ คือ 5 จุดเด่น ของ เดอะ สยาม ที่นำพาโรงแรมมาจนถึงจุดนี้ได้   ภาพ : The siam 1.ต่างจังหวัดที่ใจกลางกรุง  แน่นอนว่าทำเลเป็นจุดขายที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของโครงการนี้ เช่นเดียวกับทุกโรงแรมไทยในลิสต์รางวัล เดอะ สยาม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หากแต่ทำเลของโครงการอยู่ไกลออกมามากพอสมควร และไม่ว่าจะบังเอิญหรือไม่ โรงแรมหรูในย่านที่พอจะเป็นคู่แข่งกับเดอะสยามน้อยมากพอ ๆ กับสถานที่พบปะสังสรรค์ในบริเวณนี้ ด้วยความไม่แออัดผนวกกับพื้นที่สีเขียวอันมีถึง 40%  ของโครงการ เดอะสยามจึงดูเหมือนอยู่ในต่างจังหวัดแม้ห่างจากแหล่งเศรษฐกิจเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทำเลที่ห่างออกมานี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้นเมื่อสัญจรด้วยเรือที่ตระเวณรับแขกจากท่าต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ภาพ : เว็บไซต์ The siam hotel 2.โรงแรมและพิพิธภัณฑ์ของเก่า  เดอะ สยาม เป็นโรงแรมแรกที่คุณกฤษดา สุโกศล แคลปป์ หรือที่รู้จักในชื่อ น้อยวงพรู เป็นผู้ดูแลด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไอเดียการทำโรงแรมนี้เกิดจากการที่คุณน้อยพบกับคุณ Bill...

นิราศศรีสัชนาลัย 5จุดเด่นของ ชมปรางค์ โรงแรมและคาเฟ่ที่มีวิวงดงามที่สุดจากสุโขทัย รูปภาพ : Facebook page บ้านชมปรางค์ - BaanChomprang *เนื้อหาต่อไปนี้ ถูกสรุปและเรียบเรียงมาจากการบรรยายในงาน Bedtalk โดยทีมงานเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติกโฮเต็ล วันที่ 5 - 6 เมษายน 2567*  ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ เป็นธรรมดาที่เจ้าของโรงแรมต้องสนใจเรื่องการลดต้นทุนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม หลักคิดนี้กลับใช้ไม่ได้กับนักทำโรงแรมบูติคหลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือ คุณบาส-โสภณ ปลูกสร้าง เจ้าของโรงแรมและคาเฟ่ชาวสุโขทัย ที่พยายามอย่างหนักในการนำพาผู้คนมารู้จักกับความงามของอำเภอศรีสัชนาลัยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา คุณบาสเริ่มต้นธุรกิจด้วยคาเฟ่ทำเลลึกที่นำเสนอวิวสุดตระการตาของพระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุศรีสัชนาลัย ผลตอบรับที่ดีทำให้คุณบาสตระหนักว่า แม้จะลึกแค่ไหน ถ้าสิ่งที่ขายนั้นดีจริงก็จะยังมีลูกค้าเสมอ นำไปสู่ความคิดที่จะเปิดที่โรงแรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนจากความเหน็ดเหนื่อยในการเดินทาง หลีกหนีจากสภาพอากาศอันร้อนระอุของสุโขทัยอย่างครบวงจร หลังดำเนินการธุรกิจคาเฟ่มาได้ราว 2 ปี โครงการที่พักจึงเริ่มต้นขึ้น เริ่มจาก “สิบสองหน่วยตัด” ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงก่อน จนในที่สุด“บ้านชมปรางค์” บ้านพักสีขาวอันอุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และจากนี้ คือ 5 จุดเด่นของชมปรางค์ ผลงานโรงแรมล่าสุดที่คุณบาสได้ทำขึ้นหลังสั่งสมประสบการณ์มาตลอดหลายปี รูปภาพ : Facebook page บ้านชมปรางค์ - BaanChomprang 1.สุดยอดที่ตั้ง คุณบาสเริ่มจากการเล่าว่า เมื่อพูดถึงสุโขทัย คนจะนึกถึงอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นอันดับแรกเสมอ แต่สำหรับเขานั้นกลับกัน ด้วยความร่มรื่นจากต้นไม้น้อยใหญ่ที่ปกคลุมไปทั่ว ศรีสัชนาลัยจึงงดงามกว่าสุโขทัยมากในทรรศนะของคุณบาส หลังจากได้ดูงานมาหลายที่ ทำให้ได้พบว่าที่บริเวณพระธาตุศรีสัชนาลัย น่าจะเป็นที่เดียวในประเทศ ที่ยังขาดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจริมน้ำที่สามารถชมพระปรางค์ได้ คุณบาสจึงตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะตามหาสถานที่ซึ่งตรงกับคุณลักษณะดังกล่าว จนในที่สุดก็ได้พบกับที่ดินรกร้างซึ่งถูกทิ้งมานานเกือบ 60 ปีแห่งนี้  ซึ่งสามารถชมความงามของพระปรางค์ได้อย่างใกล้ชิดจนเป็นที่มาของชื่อ ชมปรางค์  “ทุกสถานที่มันมีคุณค่าของมัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเห็นค่าของมันหรือเปล่า” คุณบาสกล่าว รูปภาพ : Facebook page บ้านชมปรางค์ - BaanChomprang 2.เคารพโบราณสถาน อาคารถูกบังคับตามกฎหมายให้มีความสูงไม่เกิน 12 เมตร สีสันไม่ฉูดฉาด ซึ่งตรงกับความตั้งใจของคุณบาสที่จะให้เกียรติกับโบราณสถานอยู่แล้ว “ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องไม่ด้อยค่าโบราณสถาน” คุณบาสกล่าวอย่างหนักแน่น แต่จากการที่ชมปรางค์ทำหน้าที่เป็นจุดชมวิวที่น่าใช้งาน เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาพบกับความงามของพระปรางค์อย่างไม่ขาดสายนั้น เราจึงอาจกล่าวได้ว่า ชมปรางค์นี้ นอกจากจะไม่ด้อยค่าโบราณสถานแล้ว ยังส่งเสริมโบราณสถานอีกด้วย รูปภาพ :...

Day 1 until Now  5 บทเรียนจากพังงา โดย โรงแรม พังงา ออริจิ้น *เนื้อหาต่อไปนี้ ถูกสรุปและเรียบเรียงมาจากการบรรยายในงาน Bedtalk โดยทีมงานเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นบูติกโฮเต็ล วันที่ 5 - 6 เมษายน 2567* แม้พังงาจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่เป็นที่รู้จัก ตั้งแต่ อำเภอตะกั่วป่า ไปจนถึงเสม็ดนางชี แต่ตัวเมืองพังงาที่เคยรุ่งเรืองกลับถูกลืมเลือนไปอย่างช้าๆ   กระทั่งเมื่อ 8 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะทำธุรกิจที่พัก คุณเจน-ณัฐธิดา มุขแก้ว และสามี จึงได้เริ่มศึกษาเรื่องการทำโรงแรมอย่างจริงจัง และได้เข้าเรียนคลาส Small Hotel Management โดยอาจารย์วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ที่นี่เอง ที่เปิดโลกให้คุณเจนได้รู้จักกับโลกของการทำโรงแรมด้วย Passive Design ที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติซี่งสอดคล้องกับภาพโรงแรมที่เคยวาดฝันไว้ ความคิดที่จะเปลี่ยนบ้านเก่าอายุกว่า 60 ซึ่งได้เป็นมรดกมาเป็นโรงแรมบูติก6ห้องจึงได้เริ่มขึ้น   ภาพ : อรรจน์ ยอมใหญ่ ตลอดช่วงเวลาหลายปีขอการทำโรงแรม คุณเจนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายอยู่หลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ขั้นก่อสร้าง การขออนุญาต และวิกฤตโควิดที่แทบจะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวกลายเป็นอัมพาต และจากนี้คือ 5 ข้อคิด ที่คุณเจนได้ตกผลึกจากประสบการณ์การทำบูติคโฮเต็ลในนาม Phang Nga Origin Hotel 1.เคารพภูมิปัญญา : ด้วยความตั้งใจจริงของคุณเจน บวกกับความช่วยเหลือจากครูช่างและช่างในพื้นที่อีกหลายท่านที่ได้กรุณาแนะนำและถ่ายทอดภูมิปัญญาช่างผ่านการสร้างเป็นผลงานในจุดต่าง ๆ  ผลลัพธ์ที่ได้จึงมอบกลิ่นอายของเรือนพื้นถิ่นได้เป็นอย่างดี บ้านโบราณในพังงานั้นคือบ่อน้ำกลางบ้านเช่นเดียวกับภูเก็ต ซึ่งช่วยให้ลมที่พัดผ่านเข้ามาในบ้านเย็นยิ่งขึ้น ส่วนการเข้าไม้ในยุคนั้นก็ถูกประกอบได้โดยไม่ต้องใช้ตะปูซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก จึงให้ครูช่างเอาชิ้นไม้จากบ้านเก่าเหล่านี้มาประกอบใหม่เป็นม้านั่งให้กับทุกๆห้อง ภาพ : อรรจน์ ยอมใหญ่ 2.อยู่อย่างยั่งยืน : เนื่องจากเริ่มเปิดทำการในช่วงโรคระบาด จึงมีการคิดเรื่องการระบายอากาศเอาไว้เป็นอย่างดี ไม่เพียงลม แต่ทิวทัศน์และแสงเงาธรรมชาติก็ได้เพิ่มเข้ามาด้วย คุณเจนยังได้เล่าถึงงานออกแบบของ เจฟฟรี่ย์ บาว่า สถาปนิกชาวศรีลังกา ว่าเป็นแรงบันดาลใจที่อาจารย์วรพันธุ์ได้ให้ตั้งแต่ไว้ในห้องเรียน พืชพรรณที่ใช้ภายในอาคารก็ถูกเลือกสรรมาอย่างตั้งใจ โดยต้นไม้ที่มีบทบาทมากได้แก่ต้นพลูด่าง ต้นจิกน้ำ ต้นจั๋ง ต้นหมากเขียวและต้นหมากเหลือง ที่นอกจากจะช่วยกรองอากาศได้ดีแล้ว ยังมอบความร่มรื่นให้สายตา ส่วนปุ๋ยนั้นเลือกเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพที่มาจากเศษใบตองในการเตรียมอาหาร ภาพ :...

“คาดว่าเป็นเพราะคนไทยที่ไปต่างประเทศไม่ได้จะเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศแทน” คำบอกกล่าวจาก นาย จอห์น บราวน์ (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Agoda ประเทศไทย) ได้มายืนยันกระแสการท่องเที่ยวของคนไทยในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ ด้วยสาเหตุอันเนื่องมาจากผลกระทบของการระบาดของโรค COVID-19 ### TRAVEL TREND ### หากสังเกตความเคลื่อนไหวทาง social media จะเห็นได้ว่าผู้คนเลือกเส้นทางที่หลากหลายมากขึ้น เส้น off-steam และสถานที่บางแห่ง เช่น เชียงราย, น่าน, อุบลราชธานี กลายมาเป็น main-steam แต่ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดกระแสในลักษณะนี้? การทำโรงแรมสนับสนุนให้เกิดกระแสนี้ได้อย่างไร ? บูติค เวลเนสเมืองรอง ครั้งที่ 2 คอร์สอบรมนี้จะพูดถึง KEY TO SUCCESS การทำโรงแรม ### Wellness & SHA in Hotel ### แทบจะไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับมาตรฐานโรงแรมแต่สำหรับในช่วงภาวะโรคระบาด Covid-19 นี้ สุขอนามัยจึงเป็นประเด็นที่ถูกชูขึ้นมาเป็นลำดับแรก สุขอนามัยก็คล้ายกับปลอกหมอนที่หุ้มโรงแรม ความสะอาดความปลอดภัยที่มีมาตรฐานจึงเป็นปัจจัยหลักที่สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ที่จะมาเข้าพัก ### Hotel Operation ### เมื่อวันที่ 21 – 27 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เปลี่ยนบ้านเก่า เป็นบูติคโฮเต็ล นำโดย คุณวรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ กูรูบูติคโฮเต็ล ผู้ที่สร้างผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กมาแล้วกว่า 40 รุ่น เพื่อการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน จากการเปลี่ยนตึกเก่าเป็นโรงแรม และ Community Based Hotel ที่เชื่อมต่อระหว่างธุรกิจโรงแรมและชุมชนเข้าด้วยกัน ได้เปิดสอนผู้ประกอบการสร้างธุรกิจไม่เพียงแต่มุ่งหวังกำไร แต่ยังมุ่งเน้นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนระแวกที่ตั้งของโรงแรม โดยในคอร์สจะอัพเดทถึงเทรนด์การสร้างโรงแรมในต่างจังหวัด และ Mindset & Business Model, Location and Selling Point After COVID -19 รวมถึงการสร้างโรงแรมให้ถูกกฎหมาย ได้รับใบอนุญาตโรงแรม เจาะลึกและชี้แนวทางการปรับตัวเกี่ยวกับการจัดการโรงแรมตั้งแต่พื้นที่หน้าบ้าน (พื้นที่ส่วนที่ผู้เข้าพักใช้งาน...